วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รีวิวโทนี่ฟิตเนสสาขาบางเขน

4 พฤษภาคม 2558

             สวัสดีครับ บทความนี้เอาใจเด็กเกษตรและคนรักสุขภาพในละแวกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เป็นพิเศษนะครับ เพราะผมจะรีวิวโทนี่ฟิตเนส สาขาบางเขนให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

             โทนี่ฟิตเนส สาขาบางเขน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งตลาดอมรพันธ์ อยู่บนอาคารพาณิชย์ มี 2 ชั้นด้วยกัน คือชั้นที่ 2 และ 4 ของอาคาร เปิด 24 ชั่วโมง แอร์เย็นสบายแถมยังมีพัดลมให้อีกสำหรับคนขี้ร้อน ห้องน้ำมีชั้นละ 2 ห้อง แต่สภาพห้องน้ำผมให้ 5/10 ครับ ยังไม่ดีพอถ้าเทียบกับความเจริญกลางกรุงแบบนี้  ค่าสมัครสมาชิกรายเดือนเดือนละ 900 บาท มีแบบราย 3 เดือน อยู่ที่ประมาณเกือบ ๆ 1800 บาท อีกทั้งยังมีแบบราย 6 เดือนและรายปีอีกด้วย ซึ่งก็จะได้รับส่วนลดอีกมากมายหากเทียบแบบเดือนต่อเดือน ก่อนเข้าใช้บริการก็ต้องยื่นบัตรสมาชิกให้กับเจ้าหน้าที่ที่ชั้น 2 ก่อนนะครับ ไม่งั้นอาจโดนปรับได้ เพราะเขาเขียนกฎแปะไว้ในฟิตเนสอย่างชัดเจน จะอ้างว่าไม่เห็นก็คงยาก ฮ่า ๆ




             โดยชั้น 2 จะเป็นฟิตเนสที่เน้นการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ซึ่งเป็นการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นต่ำ สามารถทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายนาที เช่น จ็อกกิ้ง เป็นต้น จะมีลู่วิ่งไฟฟ้า
เครื่องสกายวอล์ค จักรยาน เหล่านี้ใช้งานได้ดีทุกเครื่องครับ ไม่มีชำรุด มีแมชชีนสำหรับฝึกกล้ามเนื้ออีก 2 - 3 เครื่อง ซึ่งก็ใช้งานได้ตามปกติเช่นกัน อุปกรณ์ที่ชั้น 2 นี้ปกติจะว่างตลอดครับ ยกเว้นแค่ช่วง 2 ทุ่ม - 4 ทุ่ม ถ้าวันไหนดวงไม่ดีก็มีเต็มบ้างครับ แต่ก็มีที่ให้นั่งรอเป็นโซฟาที่ค่อนข้างสบาย





     












   และชั้น 4 จะเป็นในลักษณะของยิมมากกว่า เนื่องจากเป็นเครื่องและอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบแอนาโรบิก คร่าว ๆ ก็คือการออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง ไม่สามารถทำต่อเนื่องหลายนาทีได้ เพราะร่างกายจะไม่สามารถสลายกรดแลคติกที่เกิดขึ้นได้ทัน จึงก่อให้เกิดอาการเมื่อยล้าและจำเป็นต้องพักนั่นเอง หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือการเล่นกล้ามนั่นแหละครับ มีดัมเบลหลายขนาดให้เลือกเล่น โดยมีตั้งแต่ขนาดเล็กสุดคือ 5 lbs ไปจนถึง 100 lbs มีม้านั่งแบบเบาะหลายตัว มีเครื่องสมิทและแมชชีนหลายอย่าง ตั้งแต่สำหรับฝึกหลัง, ขา, อก, ไหล่ และแขน ซึ่งเรียกได้ว่าค่อนข้างครบถ้วนทีเดียวครับ เช่นเดียวกับชั้น 2 คือเครื่องและอุปกรณ์อาจจะไม่ค่อยว่างในช่วงเวลา Prime time บ้าง แต่ด้วยความที่เป็นแอนาโรบิก ทำให้ผู้ฝึกไม่สามารถฝึกได้นานครับ ยังไงก็ต้องพัก เราก็ไปขอแจมด้วยได้ครับ ไม่เสียหาย ถือเป็นเรื่องที่ทำได้ปกติในยิมครับ



     
          

















สรุปว่าโทนี่ฟิตเนส สาขาบางเขน เป็นฟิตเนสที่ค่อนข้างดีเลยครับ เพราะราคาไม่แพงถ้าเทียบกับในห้างซึ่งแม้ในห้างจะมี option เสริมต่าง ๆ มากมายแต่เราก็ใช้ไม่หมดอยู่ดี แค่ฟิตเนสโทนี่ก็ครบถ้วนแล้วครับทั้งสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการจ็อกกิ้งเบา ๆ หรือคุณผู้ชายที่ต้องการฟิตกล้ามล่ำหรือแม้แต่จ็อกกิ้งก็ตาม ก็รวมทั้งหมดอยู่ใน 900 บาทต่อเดือนที่โทนี่ฟิตเนสแล้วครับ

การเดินทาง 8/10
ติดอยู่เรื่องเดียวคือรถติดครับ ช่องทางไปนั้นง่ายมากทั้งรถตู้ รถเมล์ วิน แท็กซี่ ฯลฯ

ความสะดวกสบาย  6/10
ติดแค่เรื่องห้องน้ำครับ แอร์เย็นสบาย มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ มีวินมอเตอร์ไซค์ คิวรถสองแถว
ป้ายรถเมล์

ความครบถ้วนของอุปกรณ์ออกกำลังกาย 9/10
ขาดบางเครื่องเท่านั้นครับ เช่น เครื่องฝึก Ham string (ด้านหลังของขาไปจนถึงก้น) แต่เราประยุกต์ได้

บรรยากาศ  8/10
ปลอดโปร่งโล่งสบาย

ความคุ้มค่า 9/10
900 บาทต่อเดือน และถ้าเป็นรายหลาย ๆ เดือนก็จะยิ่งถูกลงเรื่อย ๆ เปิด 24 ชั่วโมงดึก ๆ นอนไม่หลับ
ก็ไปเล่นฟิตเนสได้ครับ





วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558

กลอนตลาด...มองขาดเรื่องเวท

















อันตัวผมอยู่วงการนานนมมา                    มีหลายคราที่คนงงและสงสัย
ถ้าผู้หญิงเล่นเวทจะเป็นไร                        กล้ามจะใหญ่หรือเปล่าเราต่างกลัว
ต้องทำความเข้าใจใหม่เสียหมด                อนาคตจะสดใสไม่สลัว
เวทนั้นดีถมไปอย่าได้กลัว                         เพื่อความชัวร์ผมจะเล่าให้เข้าใจ
คนทุกคนมีกล้ามตามร่างกาย                   ไม่ว่าหญิงหรือชายคนไหนไหน
ติดอยู่แค่ไขมันบังอยู่หลังไมค์                    เราจึงไม่มองเห็นลายเส้นมัน
หากเราลดน้ำหนักแบบหลักเดิม                ไม่ได้เสริมเล่นเวทไว้อยู่ในนั้น
ร่างกายจะเผาผลาญทั้งไขมัน                   และเนื้อนั้นก็สลายในคราวเดียว
หากเราเล่นเวทด้วยจะช่วยลด                   การหายหดของกล้ามเนื้อเชื่อสิเฟี้ยว
เพราะเวลาเรายกเวทแม้ทีเดียว                  มันข้องเกี่ยวทั้งระบบครบวงจร
ตอนยกเวทเราใช้กล้ามเนื้อเรา                   นั่นแหละเท่ากับว่าได้สั่งสอน
ให้ร่างกายเข้าใจในวงจร                           จะได้ไม่บั่นทอนสิ่งสำคัญ
ร่างกายจะคิดได้ว่าใช้เนื้อ                         ใช้กล้ามเพื่อยกเวทด้วยเหตุนั้น
ร่างกายจะสลายแต่ไขมัน                         กล้ามเนื้อนั้นจะหายไปไม่มากมาย
จึงทำให้กล้ามเนื้อแลดูใหญ่                      ก็เพราะไขมันหมดหรือหดหาย
แต่กล้ามเนื้อยังคงทรงในกาย                    จึงเหมือนกล้ามมากมายได้ขึ้นมา




















มีมวลกล้ามมากไว้ให้ผลดี                        กล้ามเนื้อนี้เผาผลาญนานหนักหนา
หากกล้ามน้อยก็เผาน้อยด้อยแรงรา           แม้จะกินข้าวปลาน้อยก็พลอยบวม
ลดน้ำหนักแบบไม่เวทมีเหตุผล                  ที่ผู้คนควรเข้าใจไม่หละหลวม
เพราะร่างกายจะเผาผลาญงานรวมรวม     ไขมันร่วมกล้ามเนื้อจะเจือจาง
กล้ามเนื้อน้อยเผาน้อยด้อยแรงนัก             อาหารหลักแม้จะกินไม่กี่อย่าง
แต่ด้วยเผาผลาญน้อยคอยปูทาง               อาจเหลือค้างพลังงานผลาญไม่ไป
อันจะได้กล้ามใหญ่มาสาหัสนัก                 ต้องรู้จักกินพักเล่นเป็นการใหญ่
อีกต้องมีฮอร์โมนชายผสมไป                     ซึ่งข้างในสตรีมีไม่พอ
จึงมิต้องกังวลว่าจะล่ำ                              นักกล้ามทำกล้ามทีนี้นานหนอ
เป็นสิบปียี่สิบปีที่เขารอ                     กว่าจะพอก็แทบตายวายชีวัน
ผมเองเล่นสามปีนี้ยังเล็ก                          ยังไม่เก๊กใดใดได้ทั้งนั้น
คุณเริ่มเล่นวันนี้ก็ยังทัน                            ร่างกายนั้นจะสุดยอดตลอดไป
























ขอบคุณรูปสวย ๆ จากเฟซบุ๊ค
Fit Healthy

วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

สวัสดีที่รัก จำผมได้ไหม

          ผมก็คนเดิม ๆ ที่รักคุณหมดหัวใจ การที่จะให้ผมทำใจเลิกรักคุณนั้นเป็นเรื่องยาก

ผมอยากให้คุณรู้ว่าตั้งแต่คุณทิ้งผมไป ความสดใสสวยงามในชีวิตผมมันได้หายไป

จากชีวิตผมจนหมดสิ้น ผมไม่มีแรงบันดาลใจจะทำอะไรอีกต่อไปแล้ว ผมพยายามติดต่อคุณ

แต่ก็เท่านั้น...

เพราะคุณคงไม่รู้ว่าผมยังอยากอยู่ในชีวิตของคุณ ยังอยากเป็นส่วนหนึ่งของคุณ เป็นคนที่คุณรัก

คุณรู้อะไรไหมที่รัก ในวันนี้ผมไม่สนใจ ไม่ได้แคร์ความรู้สึกใครอีกแล้วทั้งสิ้น

มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่ผมอยากปรับความเข้าใจ เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครทำผิด

นอกจากตัวของผมเอง ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่ใคร มีแต่ความรู้สึกของตัวผมเท่านั้นที่ผมต้องการ

จะลงโทษให้มันสาสมกับที่ได้ทำร้ายคุณ จนคุณต้องหนีผมไปแบบนี้ ผมสัญญานะว่า

จะดูแลให้ดีขึ้น จะรักษาให้มันฟื้นคืน จะเอาความรู้สึกที่เสียไปกลับมา เมื่อคุณไม่รัก

อันดับแรกผมคงต้องเข้าใจ ยอมรับว่าคนผิดคือผมเอง แต่อดีตก็คืออดีตอยู่วันยังค่ำ

ผมจะไปเปลี่ยนอะไรได้ สิ่งที่ผมทำได้ในวันนี้ก็คือขอให้

คุณกลับมา ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ ผมยอมทิ้งทุกอย่างวันนี้ ผมคาดหวังเสมอว่าผมจะ

โชคดีกับทางที่คุณเลือกและตัดสินใจ แล้วก็ขอให้เราไม่ต้องพบเจอ

กับความผิดใจกันเหมือนในครั้งนี้อีกเลย ทิ้งความโกรธเคืองไว้ บอกลาสิ่งเหล่านั้นไม่ต้องเจอ

กันอีก เพราะในวันที่ผมเหนื่อยล้าที่สุด อ่อนแอที่สุด ต้องการคุณที่สุด

คุณจะเป็นเหมือนความหวังเดียวที่ผมจะมี แล้วถ้าหากผมทำผิดอีกครั้งน่ะเหรอ

คุณก็ทิ้งผมไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าเราไม่เคยได้รักกันมาก่อน

ผมสำนึกผิดแล้ว ความเจ็บปวดวันนี้มันได้ให้บทเรียนที่เจ็บปวดและมีค่าที่สุดกับผมแล้ว

ขอบคุณนะ ที่แสดงอะไรหลาย ๆ ออกมา ผมรู้ซึ้งแล้วล่ะว่าผมควรรักและแคร์ใครมากที่สุด

                                                                     รักคุณตลอดมาและจะรักตลอดไป
                                                                 
                                                                      หนึ่งเดียวนั้นก็คือตัวผมเอง



ปล.อ่านแบบธรรมดา จดหมายนี้คือความรู้สึกของวันแรกที่ผมถูกทิ้ง

      แต่ถ้าอ่านแบบ "บรรทัดเว้นบรรทัด" นั่นคือความรู้สึกของผมในวันนี้

ปล.2 เป็นงานเขียนเพื่อแสดงกลวิธีที่แปลกใหม่เท่านั้น ตัวละครทุกตัวเป็นเรื่องสมมติ
       








วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2558

ทำไมกินคลีนแล้วน้ำหนักไม่ลด !?

24 เมษายน 2558
ทำไมกินคลีนแล้วน้ำหนักไม่ลด !?
                ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกับควายหมายของการกินคลีนและการลดน้ำหนักก่อน แต่เราไม่จำเป็นต้องหลักการอะไรมากมาย ทำความเข้าใจอย่างง่าย ๆ ก็พอ จะได้ง่ายต่อการจดจำครับ
1.การกินคลีน
คือการกินอาหารที่มาจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เช่น ผัก ผลไม้ ไก่ หมู ถั่ว เป็นต้น และต้องมีสารอาหารที่ดี โดยมีการปรุงรสที่น้อยที่สุดเท่าที่จะพอกินไหว (จืดเกินก็ไม่ไหวเหมือนกัน) หลีกเลี่ยงผงชูรส สารกันบูด สารพิษอะไรก็ตามที่มักจะมากับอาหารทั้งอาหารธรรมชาติและอาหารสังเคราะห์ โดยเน้นให้สารอาหารจาก 3 แหล่ง คือ โปรตีน คาร์บโบไฮเดรต และไขมันอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับอายุ น้ำหนัก หรือรายละเอียดพิเศษอย่างอื่นเช่น โรคประจำตัว
2.การลดน้ำหนัก
คือการที่ทำให้ Cal in (Calories ที่ได้รับจากการกิน) น้อยกว่า Cal out (Calories)ที่ใช้ไปแต่ละวัน เช่น หากเราใช้พลังงานวันละ 2000 แคลอรี่ ถ้ากินมากกว่า 2000 แคลอรี่ น้ำหนักก็เพิ่ม แต่ถ้าน้อยกว่า 2000 แคลอรี่ น้ำหนักก็ลด 
วิธีที่จะรู้ว่าอาหารที่เราจะกินจะให้พลังงานเท่าไรนั้นมีอยู่ 2 วิธี
1)อาหารที่มี Packaging ที่ดีมักจะมีพลังงานที่ได้รับบอกไว้ในฉลาก แต่ต้องสังเกตจำนวนหน่วยบริโภคด้วย เช่น นมกล่องนี้มีให้พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภคอยู่ที่ 140 แคลอรี่ แต่นมกล่องนี้มี 2 หน่วยบริโภค เท่ากับว่าถ้าดื่มหมดกล่องนี้จะได้รับพลังงาน 280 แคลอรี่นั่นเอง
2)ชั่งน้ำหนักอาหาร (ใช้ตราชั่งเล็ก ๆ ก็พอครับ) ใช้หน่วยเป็นกรัม แล้วไปหาแคลอรี่จาก www.fatsecret.com ใส่ชื่อของอาหารแล้วอย่าลืมแปลงหน่วยเป็น 100 กรัม เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณด้วยนะครับ
วิธีที่จะรู้ว่าเราใช้พลังงานไปเท่าไรในหนึ่งวัน
ได้จากการคำนวณค่า TDEE (Total Daily Energy Expenditure) จากเว็บไซต์สำหรับคำนวณโดยเฉพาะ สามารถหาเว็บไซต์คำนวณจากกูเกิ้ลหรือ
เมื่อเรารู้ Cal out (TDEE) แล้วเราก็ทำ Cal in (กิน) ให้น้อยกว่าวันละ 300 - 500 แคลอรี่ หากน้อยกว่า 300 แคลอรี่ จะเห็นผลช้า แต่ถ้ามากกว่า 500 แคลอรี่ น้ำหนักที่หายไปจะเป็นกล้ามเนื้อแทนที่จะเป็นไขมัน เมื่อกล้ามเนื้อหายไป อัตราการเผาผลาญก็จะลดลง ส่งผลให้เมื่อเลิกไดเอ็ตน้ำหนักก็จะกลับมาอย่างมากมายภายในเวลาอันสั้น (Yoyo effect) และเมื่อเราทำแคลอรี่ติดลบ (Cal in - Cal out) จนถึง 7700 แคลอรี่ นั่นหมายถึงน้ำหนักจะลดลง 1 กิโลกรัมครับ
              ดังนั้นการกินคลีนไม่ได้หมายความว่าน้ำหนักจะลด เพราะอาหารคลีนบางอย่างก็มีแคลอรี่ที่สูง เช่น น้ำมันมะกอก หรือ ถั่ว เป็นต้น การจะลดน้ำหนักได้นั้นจะต้องทำให้พลังงานที่ได้รับน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ไปเป็นหลักสำคัญ สรุปว่าการกินคลีนแตกต่างกับการลดน้ำหนักอย่างชัดเจนครับ
ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จาก

วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558

อาหารเสริมเติมสดใส

19 เมษายน 2558
                                      อาหารเสริมเติมสดใส
          เมื่อได้ยินคำว่าอาหารเสริมหลาย ๆ ท่านก็คงมีความรู้สึกประสบการณ์ต่ออาหารเสริมต่างกันไปทั้งดีและไม่ดี ถ้าเรากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะทานอาหารเสริมหรือไม่ ใครจะบอกเราได้ดีที่สุดถ้าไม่ใช่ผู้ใช้จริง เราจึงสัมภาษณ์บุคคลผู้ซึ่งทานอาหารเสริมเป็นปกติในชีวิตประจำวันอีกหนึ่งท่าน
คุณพิจิตรา  วงค์พิทักษ์  ครู คศ.3 วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดอิมั้ง(พาณิชย์ราษฎร์อุทิศ) จ.จันทบุรี และเป็นเจ้าของสวนผลไม้ขนาดกลางในจ.จันทบุรี

Blogger : สวัสดีครับคุณพิจิตรา อยากทราบว่าเมื่อก่อนนี้เคยมีอาการเจ็บป่วยอะไรที่ไม่ใช่การป่วยทั่วไปเช่นโรคหวัด หรือไม่ครับ
คุณพิจิตรา : ก็มีนิ้วล็อคค่ะ แบมือออกมานิ้วกลางจะล็อกงออยู่ค่ะ ต้องใช้มืออีกข้างหนึ่งช่วยดึงนิ้วออกมา แล้วก็มีอาการปวดตรงข้อฝ่ามือ ปวด ๆ แสบ ๆ ร้อน ๆ รู้สึกไม่สะดวกเวลาหยิบจับอะไร
Blogger : เป็นมานานหรือยังครับ
คุณพิจิตรา : ก็นานค่ะ มีอาการตั้งแต่เริ่มแรกน้อย ๆ แล้วก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
Blogger : มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันหรือไม่ครับ
คุณพิจิตรา : ไม่สะดวกเวลาต้องทำอะไรที่ต้องกำมือค่ะ นิ้วมันไม่ยืดออกมา
Blogger : เคยรักษาอย่างไรมาบ้างครับ
คุณพิจิตรา : ก็ไปพบแพทย์ค่ะ หมอก็แนะนำเริ่มต้นก็ให้ยามาทานแล้วก็บอกว่าถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องมีการผ่าตัดค่ะ หมอบอกว่าเป็นพังผืดเกาะน่ะค่ะ
Blogger : หลังจากรับประทานยาที่แพทย์แนะนำแล้วดีขึ้นหรือไม่ครับ
คุณพิจิตรา : รู้สึกว่ายาที่ทานของคุณหมอมาไม่ทำให้ดีขึ้นเท่าไร เลยเริ่มลองทานอาหารเสริมค่ะ
Blogger : แล้วเริ่มรับประทานอาหารเสริมเมื่อไรครับ มีหลักการในการเลือกอย่างไรครับ
คุณพิจิตรา : พอดีลูกสาวแนะนำให้ทาน ทานไปสักพักหนึ่งก็รู้สึกว่ามันดีขึ้น จนวันหนึ่งก็มีความรู้สึกว่า อ้าว นี่เราหายแล้วเหรอ อาการกำมือแล้วไม่ยืดต่าง ๆ มันก็หายไปค่ะ 
Blogger : มีการศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจทานอาหารเสริมอย่างไรครับ
คุณพิจิตรา : ดูข้อมูลจากแผ่นพับ ในอินเตอร์เน็ต ลูกสาวก็ช่วยหาข้อมูลและแนะนำด้วยค่ะ อยู่ๆ อาการก็หายไปโดยไม่ทันสังเกต อยู่ ๆ ก็เอ้าเราหายแล้วเหรอ แบบนี้
Blogger : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงผู้ที่กำลังตัดสินใจเรื่องการทานอาหารเสริมครับ
คุณพิจิตรา : ในความคิดก็คือการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันเรามักจะไม่ได้สารอาหาร    ครบถ้วนอาหารเสริมก็จะช่วยเสริมให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงเพิ่มขึ้น คิดว่าไม่  จำเป็นต้องเป็นวัยผู้ใหญ่เท่านั้น เราสามารถทานได้ตั้งแต่เด็กอยู่ มันก็จะเสริมในส่วนต่าง ๆ ที่ของเราไม่ครบน่ะค่ะ แต่ก็ต้องศึกษาข้อมูลอาหารเสริมเยอะ ๆ แล้วก็เปรียบเทียบดูว่าอันไหน ดีที่สุดสำหรับเราค่ะ
Blogger : ขอขอบคุณคุณพิจิตรามากครับ
คุณพิจิตรา : ขอบคุณค่ะ ยินดีค่ะ


 ขอขอบคุณจาก
คุณพิจิตรา  วงค์พิทักษ์  คุณแม่ที่น่ารักที่สุดในโลกท่านหนึ่ง



"เกาะขาม" กับความพยายามขั้นสูงสุด

19 เมษายน 2558
                                               เกาะขาม
         เกาะขาม เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างออกไปจากฝั่งประมาณ 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมาณ 45 นาที และอยู่ทิศตะวันตกของเกาะแสมสารห่างจากท่าเรือแสมสาร 3 กิโลเมตร  เกาะขามมีรูปร่างคล้ายตัว H มีพื้นที่ประมาณ 61 ไร่ อยู่ภายใต้การดูแลของกองเรือป้องกันฝั่ง (http://travel.kapook.com/view1165.html)  
         เห็นเขาร่ำลือกันว่าเกาะขามนี้สวยนักสวยหนา ผมซึ่งชอบการท่องเที่ยวภายในประเทศจึงตัดสินใจไปเกาะขามเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่แล้ว มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เกาะขามไม่เหมือนเกาะชื่อดังทั่ว ๆ ไปอาทิ เกาะล้าน หรือเกาะช้าง เป็นต้น เริ่มด้วยการเดินทางก็เดินทางไปชลบุรีให้ได้ก่อนแล้วหาทางต่อรถไปที่กิโลสิบ สัตหีบ จากนั้นก็จะมีรถโดยสารผ่านบ้างก็โบก หรือรีบก็นั่งวินไปเลย 50 - 60 บาท ประมาณ 15 นาทีก็ถึงบริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยวใกล้ ๆ ท่าเรือ แต่ !!! ถ้าไม่ได้จองตั๋วเรือไว้ล่วงหน้าแล้วไปถึงภายหลัง 6 โมงเช้าไปแล้ว มีโอกาสสูงมากที่ตั๋วจะหมด เพราะเขารับนักท่องเที่ยวที่เดินเข้าไปซื้อตั๋วเพียง 200 ที่ (เกาะแสมสารก็เช่นกัน) วันแรกผมไปถึง 8 โมง แน่นอนว่าต้องติดอยู่ที่ฝั่งหนึ่งคืนและตื่นมาจองตั๋วตั้งแต่ตีสามและต้องนั่ง ๆ นอน ๆ รอจนกว่าจะตี 5 ครึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะเริ่มขายตั๋วผมถึงจะได้ตั๋วและได้เป็นตั๋วลำดับที่กว่า 30 !!! และครบ 200 ที่ตอน 6 โมงเช้า เรือมี 2-3 รอบคือ 10 โมง 11 โมง อะไรประมาณนี้จำไม่ค่อยได้ครับเพราะไม่ได้นอนหัวเลยเบลอ ๆ พอถึงเวลาก็นั่งเรือไป เรือโดยสารก็ทั่ว ๆ ไปเหมือนเรือข้ามเกาะธรรมดา นั่งอยู่สัก 40 นาทีก็ถึงเกาะ
        ภาพแรกที่เห็นเกาะคือ เฮ้ย ! ไหนที่เล่นน้ำ ปรากฏว่าเรือจอดหลังเกาะ ลงเรือแล้วต้องเดินอ้อมไปหน้าเกาะอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรก็ถึงหน้าเกาะ มีหาดทรายที่ขาวใช้ได้เลยครับไม่ผิดหวัง น้ำทะเลที่ใสระดับน้อง ๆ อันดามัน อ้ะชื่นชมบรรยากาศกันพอหอมปากหอมคอก็มีประกาศจากทางเกาะว่าให้นักท่องเที่ยวที่เพิ่งมานั้นนำบัตรประชาชนเข้ามาแลกอุปกรณ์ดำน้ำ (สน็อกเกิ้ล,เสื้อชูชีพ) ที่บริเวณจุดบริการ มีการสอนใช้อุปกรณ์แบบถูกวิธี แต่กิจกรรมไม่ได้มีเพียงดำน้ำดูปะการังเท่านั้นยังมีเดินขึ้นเขา
เตี้ย ๆ ชมวิวอีกด้วย ผมคิดว่าถ้าจะมาชมวิวตัวเปียก ๆ คงจะไม่สนุกนักจึงเลือกจะขึ้นเขาก่อน ทางขึ้นเขาก็มีป้ายบอกเป็นระยะอย่างชัดเจนตั้งแต่ขึ้นยันลง มีจุดชมวิวอยู่ 3 - 4 จุด ผมว่าสวยนะหินเยอะและเห็นน้ำทะเลสุดลูกหูลูกตา ชมอยู่สักพักก็ลงแล้วเพราะอยากดำน้ำดูปะการัง อุปกรณ์ก็ง่าย ๆ ครับใครไม่เคยใช้เลยสักครั้งก็จะใช้เป็นเมื่อฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ น้ำไม่ลึกครับดำออกไปได้ไกลเกือบ 100 เมตร จากฝั่ง แต่ผิดหวังตรงปะการังกว่า 95% เป็นสีดำ ๆ หม่น ๆ มีปลาบ้างแต่สีสันก็ไม่สวยเท่าไรนัก มีหอยเม่นจำนวนหนึ่งแต่อย่างไรก็ต้องระวังให้มากนะครับ พอดำไปสักพักก็เวียนหัวกลับเข้าฝั่งรอรอบเรือกลับซึ่งมีรอบบ่าย 1 บ่าย 2 มีมากกว่านั้นอีกหรือเปล่าไม่แน่ใจแต่ผมกลับบ่าย 2 ระหว่างนั้นก็ไปเข้าห้องน้ำ การจัดการระบบห้องน้ำถือว่าดีครับถ้ามองในมาตรฐานของความเป็นเกาะ พอเรือมาก็ออกจากเกาะกลับเข้าฝั่ง พอถึงฝั่งเราเดินออกมาด้านหน้าก็จะพอมีรถโดยสารวิ่งผ่านบ้างและรถโดยสารพวกนี้จะผ่านคิวรถตู้ รถทัวร์สามารถต่อรถกลับกรุงเทพได้เลยครับ
       ภาพรวมเกาะขามเป็นเกาะที่น่าไปเพราะว่าจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวน้อยธรรมชาติจึงไม่เสียหายมากนัก และยังส่งผลให้มีความเป็นส่วนตัวใช้ได้ การเดินทางไปง่ายไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรนานนัก แต่สิ่งเดียวที่คนจะไหวหรือไม่ไหวก็คือถ้าไม่จองตั๋วเรือไว้ล่วงหน้าคุณจะจำเป็นต้องอดหลับอดนอนมาจองตั๋วในกลางดึกนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กะปุก
www.paiduaykan.com

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

หน้าร้อน...บั่นทอนไส้

5 มีนาคม 2558
เตือนระวัง!!บริโภคน้ำดื่ม น้ำแข็ง ไอศกรีมช่วงหน้าร้อนปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ง่าย
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยาและโฆษก อย. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทั่วทุกภาคของประเทศอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ประกอบกับกำลังย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้น้ำดื่ม น้ำแข็ง และไอศกรีม กลายเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของผู้บริโภค เพื่อช่วยดับกระหายและคลายร้อน แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีการเฝ้าระวัง ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะหากขั้นตอนการผลิตและการเก็บรักษาที่ไม่ดี อาจเกิดการปนเปื้อนและการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์อย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ และมักพบบ่อยในหน้าร้อน ได้แก่ เชื้อซัลโมเนลล่า วิบริโอ อี.โคไล และสแตฟฟิโลคอคคัสออเรียส เป็นต้น อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และโรคอุจจาระร่วง
อย.มีความห่วงใยอย่างยิ่ง จึงขอให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อน้ำดื่ม น้ำแข็ง และไอศกรีม ในช่วงหน้าร้อนเป็นพิเศษโดยการเลือกซื้อน้ำดื่ม ควรเลือกภาชนะบรรจุที่สะอาดและปิดสนิท ไม่รั่วซึมหรือมีรอยสกปรก ไม่มีร่องรอยการเปิดใช้ลักษณะของน้ำที่บรรจุอยู่ต้องใสสะอาด ไม่มีตะกอน ไม่มีสี กลิ่น รสที่ผิดปกติ ส่วนน้ำแข็ง หากเป็นน้ำแข็งหลอดที่บรรจุถุงควรสังเกตรายละเอียดบนฉลากให้ครบถ้วน และต้องมีข้อความว่า “น้ำแข็งใช้รับประทานได้”ด้วยตัวอักษรสีน้ำเงินส่วนน้ำแข็งหลอดที่ให้บริการภายในร้านค้าและร้านอาหารทั่วไป ผู้บริโภคควรสังเกตสถานที่เก็บและภาชนะที่บรรจุน้ำแข็ง ซึ่งต้องถูกสุขลักษณะ ไม่มีการใส่น้ำแข็งปนกับอาหารประเภทอื่น โดยก้อนน้ำแข็งเมื่อสังเกตด้วยตาเปล่าต้องมีความใส สะอาด ปราศจากเศษฝุ่นละอองปนเปื้อน หากเป็นน้ำแข็งซอง ควรซื้อมาบริโภคทั้งก้อน โดยนำมาล้างน้ำก่อนทุบหรือบดแล้วนำใส่ในภาชนะบรรจุที่สะอาด สำหรับไอศกรีม ภาชนะบรรจุต้องสะอาดและปิดสนิท ไม่ฉีกขาด สังเกตได้จากการที่ไม่มีไอศกรีมรั่วซึมออกมา ส่วนไอศกรีมประเภทตักขาย ตัวไอศกรีมต้องไม่มีสี กลิ่น รส ที่ผิดปกติและไม่เหลวหรือมีลักษณะเหมือนเคยละลายมาแล้ว รวมทั้งผู้บริโภคต้องดูสุขลักษณะของผู้ขายด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเล็บมือ การแต่งกาย ภาชนะที่ใช้ใส่ไอศกรีมก็ต้องสะอาดด้วย
ขอให้ผู้บริโภคป้องกันตนเองและเพิ่มความปลอดภัยในการบริโภคน้ำดื่ม น้ำแข็ง และไอศกรีม ในช่วงหน้าร้อน โดยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากแสดงรายละเอียดครบถ้วน ชัดเจน เช่น ชื่ออาหาร และชื่อที่ตั้งสถานที่ผลิต เครื่องหมาย อย. พร้อมเลขสารบบอาหาร 13 หลัก วันเดือนปีผลิตหรือวันหมดอายุ ชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ทั้งนี้ หาก อย. ตรวจพบผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยจัดเป็นอาหารผิดมาตรฐาน ระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และจัดเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมมือกับ อย.ในการเฝ้าระวังตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

อย.เตือนเครียด! "ยาผงคล้ายขมิ้น" อาจทำให้คุณดิ้น

30 มีนาคม 2558

อย.เตือน! อย่าหลงเชื่อ “ยาผงสมุนไพรคล้ายขมิ้น” อวดอ้างสรรพคุณครอบจักรวาล พบมีการระบาดหนักในพื้นที่ภาคเหนือ


น.พ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้บริโภคแจ้งเรื่องร้องเรียนมาทาง อย. เกี่ยวกับยาสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองคล้ายขมิ้น บรรจุอยู่ในซองพลาสติกใส โดยมีฉลากระบุว่า “สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ แก้เลือดลม 12 จำพวก ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือเหน็บชา กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ บรรเทาอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตหญิงชายผอมแห้ง กินแล้วราศีดีขึ้น” ระบุวันที่ผลิต 9 ธ.ค. 57 วันหมดอายุ 9 ธ.ค. 60 วางจำหน่ายจำนวนมากทางภาคเหนือ ซึ่งยาดังกล่าวไม่มีทะเบียนยา และมีการอวดอ้างสรรพคุณว่าเป็นสมุนไพรแก้ปวดที่สามารถรักษาโรคครอบจักรวาล
โดยยาสมุนไพรดังกล่าวนี้มีชาวบ้านที่มีอาการเป็นแผลที่เท้าซื้อไปกินเพื่อรักษาอาการปวดที่แผล เมื่อกินแล้ว หายปวดทันที แต่แผลที่เท้าบวมขึ้น จึงไปหาหมอเพื่อเจาะเอาหนองออกจนเกือบต้องตัดขาทิ้ง เมื่อนำยาไปตรวจสอบ พบมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
อย.มีความห่วงใยผู้บริโภค จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาและซื้อยาดังกล่าวมารับประทาน และหากผู้ประกอบการซื้อยาชนิดนี้มาจำหน่าย ถือว่ามีความผิดข้อหาขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
การที่จะมีสุขภาพดีได้นั้นไม่มีทางลัด เราควรเลือกรับประทานอาหารที่สด สะอาด มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้หรือมี อย. กำกับ ควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ จึงจะสามารถมีสุขภาพที่ดีได้อย่างปลอดภัยอย่างยั่งยืน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaihealth
healthcarethai
samunpri